เนื่องมาจากว่า กิ๊ฟชอบโบอา กับ ทงเฮ มากเป็นพิเศษนะคะ เลยบ้าบอกับการแต่งฟิคคู่นี้ค่ะ ไม่รู้ว่าจะสนุกรึเปล่า
ยังไงช่วยวิจารณ์กันด้วยนะคะ
Talk by ทงเฮ
ผมมีความชอบในสิ่งๆหนึ่งนั่นคือการทำเบเกอรี่ มันคงสืบทอดมาจากครอบครัวของผม ที่ท่านเปิดกิจการร้านเบเกอรี่อยู่ที่มกโพ แต่ผมต้องมาใช้ชีวิตเรียนมหาวิทยาลัยในโซล
ตอนแรกผมกลัวว่าผมจะไม่ได้ทำงานในสิ่งที่ผมรัก แต่มันคงเป็นโชคดีของผม ที่ผมได้มีโอกาสมาฝึกงานที่ร้าน แซนดี้ เบเกอรี่ แห่งนี้ ป้าแซนดี้แกน่ารักมาก อบอุ่น ใจดี
คอยสอนผมทำขนมปังแบบต่างๆอยู่เสมอนั่นก็เป็นโอกาสดีที่ผมจะได้พัฒนาฝีมือของผมในด้านนี้
วันนี้ก็เป็นอีกวัน หลังจากเรียนเสร็จที่มหาลัยประมาณบ่ายสองโมง ก็ตรงมาที่ร้านแซนดี้ทันที เพื่อมาเตรียมขนมปังไว้ขายเหมือนทุกวัน เนื่องจากว่าร้านของป้าอยู่เกือบในสุดซอย
ผมเลยจำเป็นต้องเดินเท้าเข้าไป แต่วันนี้กลับมีอะไรแปลกใหม่อยู่ตรงปากซอย ผมเลยแวะดูสักหน่อย
มันเป็นรสบัสคันเล็กๆคันหนึ่งคนในรถกำลังส่งและทอนเงินอย่างขมีขมัน ให้กับลูกค้าที่รับกาแฟสดรสต่างๆ สังเกตุว่าแถวลูกค้าก็ยาวพอควร ผมเองเพิ่งนึกขี้นได้ว่า กลางวันนี้ยังไม่ได้
กินอะไรมาเลย หาอะไรลงท้องหน่อยก็คงจะดี
“ขอบคุณครับ นี่เงินทอนครับ” คนขายท่าทางใจดีส่งเงินทอนให้ผม
ในขณะที่ผมกำลังเดินออกไป คุณลุงคนขายก็ได้ตะโกนเรียกใครคนหนึ่งซึ่งตอนแรกผมก็ไม่ได้สังเกตเลยว่าเธอยืนอยู่ข้างๆผมนี่เอง
“นี่!! โบอา หลานยืนเหม่ออะไรอยู่ล่ะ ทำไมไม่แถมคุ้กกี้ให้ลูกค้า”
“คะ ??” เธอ.. คนที่ชื่อโบอา หันมาตามเสียงเรียก พอหันมาเจอผม เธอก็ปั้นหน้าแบบรู้สึกผิด
“ขอโทษด้วยนะคะ นี่ค่ะ!! เป็นของแถม ทานคู่กับกาแฟ” แล้วเธอก็ยื่นถุงคุ้กกี้เล็กๆให้ผม หน้าเธอดูเหมือนมีความสุขมากๆ ผมรับมันมาแบบดีใจเล็กๆ
“คุณทำเองหรอ??” ผมลองถามดู
“ใช่ค่ะ.. เราขายกาแฟสดแบบเคลื่อนที่ทั่วกรุงโซล และเราคิดว่าจะตีตลาดลูกค้าแบบมีของแถมเล็กน้อยให้ด้วย
ฉันเองชอบทำเบเกอรี่นี่เป็นโอกาสให้ฉันได้แสดงฝีมือ รสชาติเป็นยังไงก็ติชมได้ค่ะ เรารับฟังความเห็น” พอเธอพูดจบก็ยิ้มให้ผม นั่นทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าเธอก็น่ารักดีนะ
“ได้ครับ ผมต้องกลับมาบอกคุณแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ คุณจะมาอีกรึเปล่า ??”
“มาค่ะ… เราอยู่ประจำที่ประมาณสองอาทิตย์ ก่อนที่จะย้ายไปที่อื่น คุณมาพรุ่งนี้ได้”
“เปล่าครับ… เพียงแต่ว่า … แปปนะ” แล้วผมก็ก้มหยิบอะไรบางอย่าง ออกจากเป้สะพาย ในขณะที่เธอทำหน้าฉงนเล็กน้อย พอผมเจอของแล้วจึงส่งมันให้เธอ
“ผมเองลองทำแยมโลนี้ดูเป็นครั้งแรกเหมือนกัน ผมเลยอยากให้คุณลองทาน พรุ่งนี้เราค่อยมาแลกความเห็นกันก็ได้ คุณจะรังเกียจมั๊ย ??” ผมลองหยั่งเชิง
“คุณทำเอง…” เธอแปลกใจเล็กน้อย “จะรังเกียจอะไรล่ะค่ะ ได้แน่นอนค่ะ” แล้วเธอก็รับมันไป
“งั้น.. ผมขอตัวนะ”
“เดี๋ยวค่ะ… คุณชื่อ..” โบอาตะโกนถามผม
“ทงเฮครับ..ไปนะ”
แล้วผมก็เดินกินกาแฟแบบสบายใจมาถึงร้านแซนดี้ ความจริงแล้ว ผมตั้งใจจะให้ป้าแซนดี้ชิมแยมโล แต่ไม่รู้ทำไมจึงเอาไปให้เธอซะอย่างงั้น หรือจะถูกชะตาก็ไม่รู้สิ ^^
“หลานลุง เดี๋ยวนี้มีหนุ่มๆมาจีบเยอะเลยนะ เสน่ห์แรงจริงๆ” ลุงได้ทีแซวหลานอย่างเอ็นดู
“จีบเจิบอะไรกันคะลุง เขาเป็นลูกค้านะ” ถึงโบอาจะบอกแบบนั้น แต่ก็แอบอมยิ้มให้กับแยมโลกล่องเล็กๆนี้
พอถึงตอนเย็น ภายในร้านไม่ค่อยมีลูกค้าอยู่แล้ว ถ้าสักยี่สิบนาทีไม่มีคนเข้า ป้าก็จะมาปิดร้าน ในขณะที่ผมง่วนอยู่กับการเก็บโต๊ะ ก็ได้มีลูกค้าชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามา
“ขอโทษ…ยังไม่ได้ปิดร้านใช่มั๊ย ??” ผู้ชายคนหนึ่ง ดูท่าทางไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่
“ยังครับ… คุณจะทานอะไร สั่งได้นะครับ” ผมเดินกลับที่ที่เคาน์เตอร์
“คิบอมทานอะไรดีล่ะคะ??” น้ำเสียงเธอนี่ ผมไม่อยากบอกว่าสุดๆ - -
“แทยอนอยากทานอะไรผมก็เอาแบบนั้นล่ะครับ”
ผมทำอะไรไม่ถูกกับคู่รักที่ตกอยู่ในโลกของตัวเองสองคน แต่แทยอนอะไรนั่น จะสะดุ้งเมื่อเห็นผมจ้องอยู่ อ่านสีหน้าได้ประมาณว่า คุณจะทานอะไรก็สั่ง
หลังจากที่ผมเอาโดนัทมะพร้าวกับโกโก้สองชุดไปเสิร์ฟที่โต๊ะแล้ว ผมก็มาจัดการกับเคาน์เตอร์ สักพักคิบอมก็ขอตัวออกไปนอกร้าน ขณะเดียวกันที่ป้าแซนดี้ก็เดินออกมาจากครัว
“ทงเฮ วันนี้พอแค่นี้ก็ได้นะ เดี๋ยวลูกค้าป้าจัดการเองได้ ตอนนี้เรากลับบ้านได้แล้วล่ะ เย็นมากแล้ว อ้อ… แต่ว่าก่อนไป ช่วยเอาขยะไปทิ้งหลังร้านให้ป้าทีนะ”
“ได้ครับป้า งั้นผมขอตัวกลับเลยแล้วกันนะ สวัดดีครับ” ผมโค้งให้ป้าแซนดี้ แล้วก่อนออกจากร้านก็ไม่ลืมหยิบถุงคุ้กกี้ของโบอาใส่กระเป๋าพร้อมกับหิ้วถุงขยะออกมา
ในขณะที่ผมกำลังล้างมือหลังจากทิ้งขยะแล้ว ผมอาจไม่ได้หูฝาดไป ที่ได้ยินนายคิบอมกำลังคุยโทรศัพท์กับโบอา หลานสาวคนขายกาแฟที่ผมเจอเมื่อบ่าย จับเนื้อหาได้ประมาณว่า
“อะไร… ตอนนี้ฉันอยู่ที่บ้าน…” คิบอมพูดกับปลายสาย
“ก็อยู่คนเดียวน่ะสิ นั่งดูทีวีอยู่ไง”
“นี่โบอา… เธอนี่มันขี้ระแวงจริงๆ ก็แค่เสียงโทรทัศน์มันดังเท่านั้นเอง ใครว่าฉันยืนอยู่ข้างถนนกันล่ะ”
ผมแอบฟังคิบอมโกหกเป็นตุเป็นตะอย่างอึ้งๆ อะไรนะ… ดูทีวี อยู่คนเดียว อยู่บ้านหรอ ผมคิดได้อย่างน่าสมเพช นี่โบอาไปคบกับคนแบบนี้ได้ยังไงกันนะ ตอนนี้เธอคงไม่รู้สินะ
ว่าแฟนของเธอกำลังอยู่กับผู้หญิงคนอื่นอย่างมีความสุข
“ทำไมเธอถึงไปชอบคนแบบนี้ได้นะ”
นั่นคือประโยคที่ผมพึมพำระหว่างทางกลับบ้าน พลางกินคุ้กกี้ฝีมือของโบอาไปด้วย ผมมีความรู้สึกว่ากินไปชิ้นแรกแล้วมันอร่อยมากทีเดียว แต่ทำไมผมรู้สึกเซ็งๆนะ
คงไม่ใช่เพราะเธอมีแฟนแล้วหรอกนะ แต่หารู้ไม่ว่า โบอากำลังมีความสุขอยู่กับแยมโลพลางนึกหน้าผู้ชายคนที่ให้มันแก่เธอนั่นเอง ^^
วันรุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์ซึ่งผมไม่มีตารางเรียน เลยสะดวกมาช่วยงานที่ร้านแซนดี้เร็วกว่าที่เคย ในขณะที่ผมเดินมาถึงปากซอย รสบัสคันเล็กที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตา
ก็มาจอดขายกาแฟเหมือนเคย ผมเลยตัดสินใจได้ว่าจะบอกเรื่องของคิบอมแก่โบอา ผมชะเง้อมองหาเธอไม่เจอ พอลุงคนขายเห็นผมเขาก็ได้ทักผมอย่างเป็นกันเอง
“สวัสดี… มองหาหลานลุงอยู่รึเปล่า” ลุงถามเหมือนรู้ความคิดผม
“เอ่อ…ก็ไม่เชิงนะ แต่เธอไม่อยู่หรอ” ว่าจะบอกเรื่องนั้นกับเธอสักหน่อย
“ไม่อยู่หรอก วันนี้เพื่อนเขาชวนไปเที่ยวไหนกัน ลุงจำไม่ได้แล้ว หลานลุงมันเลยได้โอกาสอู้งานวันนึง ทำไม… ติดใจคุ้กกี้ใช่มั๊ยล่ะ”
ผมเลยขอตัวจากมา พร้อมกับกลับมาที่ร้านแซนดี้อย่างเซ็งๆ พอผมเปลี่ยนเครื่องแบบอะไรแล้ว ผมก็เดินมานั่งที่เคาน์เตอร์ ป้าแซนดี้แกเดินมาอยู่ข้างผมตอนไหนไม่รู้
พอเขาเห็นผมเหม่อเขาเลยตบบ่าเรียกสติ
“อะไรหรอครับป้า…” ผมแปลกใจ
“ทงเฮของป้า วันนี้ดูเหม่อๆไปนะ”
“ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ” ผมพยายามปั้นหน้าเป็นปกติ
“ถ้ามีอะไรก็ปรึกษาป้าได้นะ” ป้ามองผมอย่างเอ็นดู
“คือ… ป้าเคยประทับใจ… ไม่สิ… เรียกว่าถูกชะตาดีกว่า ในช่วงเวลาแค่สั้นๆมั๊ยครับ”
ผมตัดสินใจถามป้าออกไป
“เคยสิ ป้าว่าช่วงเวลานั้น มันทำให้เรามีความสุขนะ” ป้าตอบยิ้มๆ
หลังจากนั้นผมก็เล่าเรื่องเมื่อวานก่อนที่ผมจะมาทำงานที่ร้าน และเล่าว่าอะไรที่ทำให้ผมประทับใจ
“เธอชอบอะไรที่เหมือนกับผมน่ะครับป้า เขารับแยมโลผมไปโดยที่ไม่รังเกียจ ทั้งๆที่ผมบอกว่าผมทำครั้งแรก ถ้าเป็นคนทั่วไปอาจกังวลก็ได้ว่ารสชาติมันอาจจะแย่”
ผมคิดอย่างนั้นจริงๆเพราะพี่ชายของผม มันมักดูถูกการทำเบเกอรี่ของผมอยู่เสมอ
“เราคิดอย่างนี้แสดงว่าเรามีอคติอะไรเปล่า.. แต่เอาเถอะ ป้าว่าเรื่องของเรา รู้เท่านี้คงพอแล้ว เห็นวันนี้เราเซ็งๆ จะไปห้างกับป้ามั๊ยล่ะ ว่าจะไปหาซื้อวัตถุดิบทำเบเกอรี่แบบใหม่น่ะ สนใจรึเปล่า”
“ดีเหมือนกันครับป้า” ผมว่าไปเปิดหูเปิดตาบ้างก็ดี
หลังจากออกมาจากร้านมาเดินห้างกับป้า ผมก็รู้สึกว่าได้กลับมาเดินห้างคราวนี้มันดีมากจริงๆ หลังจากที่เราซื้อของกันเสร็จแล้วป้าแซนดี้ก็ชวนผมไปนั่งทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารในห้าง
หลังจากที่พนักงานรับออเดอร์ของเราเสร็จแล้ว สายตาของผมก็เหลือไปเห็น คนอู้งานไม่ไปขายกาแฟ กำลังนั่งห่างออกไปพอสมควร แต่ผมรู้สึกเซ็งขึ้นมาเมื่อเห็นว่าใครที่นั่งอยู่ข้างๆเธอ
“คิบอม ฉันมีของอะไรให้นายด้วยนะ” แล้วเธอก็หยิบกล่องโดนัทกล่องหนึ่งส่งให้คิบอม
ผมสังเกตว่าหน้าเธอตอนนี้ดูมีความสุขและภาคภูมิใจมากๆ ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าเธอต้องทำโดนัทเองแน่ๆ
“ทงเฮ มองใครอยู่หรอ” ป้าแซนดี้หันมาถามผม เพราะเขาเห็นผมยังไม่ลงมือกินซะที แล้วก็มองไปยังทิศทางที่ผมมองบ้าง
พอผมหันไปอีกที คราวนี้ทั้งเธอและคิบอม กำลังลุกจากโต๊ะ แต่ตอนนี้โบอากำลังมองผมอยู่ เธอยิ้มให้ผมอย่างน่ารักเหมือนเคย ผมก็ได้แต่ยิ้มตอบไป
เธอสังเกตุว่าคิบอมไม่ได้มองเธออยู่เธอก็โบกมือให้ ผมไม่รู้ว่าผมควรจะดีใจดีรึเปล่า
“แฟนเรารึยังไงทงเฮ ป้าเห็นมองไม่วางตาเลย” ป้ากึ่งถามกึ่งแซว
“ห๊ะ..”ผมสะดุ้ง “แค่คนรู้จักเองครับป้า” ผมตอบแล้วก็กินอาหารอย่างไม่สนใจอะไรอีกเลย
พอเรากินอาหารกันเสร็จแล้วผมกับป้าแซนดี้กำลังรอรถเมล์เพื่อกลับร้าน สายตาผมไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังทำหน้าเศร้าใส่ถังขยะไม่ไกลจากจุดรอรถมากนัก
ยิ่งผมมองเท่าไหร่เธอคนนั้นก็ยิ่งเหมือนโบอา พอผมสังเกตรอบๆว่าคิบอมไม่ได้อยู่ด้วย นี่คงเป็นโอกาสเหมาะที่ผมจะบอกเรื่องแฟนของเธอ แต่ผมเห็นเธอกำลังจะเดินไปข้ามถนนตรงสี่แยก
ผมว่าผมคงต้องออกวิ่งแล้วล่ะ แต่พอผมวิ่งมาถึงถังขยะตรงที่เธอยืนอยู่เมื่อกี้ มันทำให้ผมต้องชะงัก เพราะสิ่งที่อยู่ในถังขยะนั่นเอง
“เธอไปชอบคนแบบนี้ได้ยังไงกัน!!” ผมสบถออกมาอย่างหงุดหงิดหลังจากเห็นกล่องโดนัทที่โบอาได้ให้กับคิบอมไว้อยู่ในถังขยะ ฝากล่องเปิดออกเลยรู้ว่าคนรับยังไม่ได้กินมันสักชิ้นเดียว
------------ จะกลับมาต่อให้อย่างแน่นอนนะคะ -----------